ท่องเที่ยวหนีลมร้อนไปเมือง เจียงใหม่ วันที่ 2
ส่องมายังช่องหน้าต่าง บวกกับความเย็นที่อยู่ในห้อง ทำเอาไม่อยากตื่นเลย เมื่อคืน ฝนตกทำให้อากาศตอนเช้าเป็นความรู้สึกที่ยากจะลุกออกจากเตียง เล่นเอากว่าจะลุกได้ เกือบ 10 โมง ถ้าเป็นเวลาทำงาน ก็เรียกได้ว่า “สายแบบลาครึ่งวันไปเลยดีกว่า” แต่วันนี้เราจะเที่ยว และแล้วก็เริ่มต้นกับ ท่องเที่ยว หนีลมร้อน ไป เจียงใหม่ วันที่ 2
วันนี้ เราวางแผนที่จะขึ้นดอย ไปไหว้พระ รวมถึง จะไปถ่ายรูปกับเด็กดอยด้วย เลยไม่ควรออกสายมาก จัดไปเลยรีบ ขับรถกลับไปที่ร้านเช่ารถ เพื่อทำการเปลี่ยนรถ จาก Fino มาเป็น Honda wave ที่เป็นเกียร์ธรรมดาแทน เพราะ การขับ มอเตอร์ไซด์ ขึ้นเขานั้นถ้าไม่แน่นจริง เอาเกียร์ธรรมดาดีกว่าปลอดภัยกว่า (แต่คนที่นี่ ขับอารายก็ขึ้นได้ แม้แต่จักรยาน ยังปั่นขึ้นไวจริงๆ) แล้วพอได้รถแล้ว ถึงคันนี้จะไม่น่ารักเท่า Fino แต่ก็มั่นใจกว่าในการขึ้นเขา
ก่อนขึ้นต้องหาอะไรกินให้พร้อมก่อน เพราะอาหารบนเข้าค่อนข้างแพง ถ้าเราจัดการกินอารายให้เรียบร้อย ตอนขึ้นจะได้เที่ยว ถ่ายรูปได้สบายใจหน่อย
จัดไปกับร้านเฮือนเพ็ญ ร้านอาหารเมืองเหนืออีกร้านนึงที่อ่านใน web แล้วเค้าแนะนำให้มากิน ร้านตรงนี้อยู่ใกล้ๆ กับ วัดเจดีย์หลวง (Chedi Luang) Menu อาหารก็เป็น เหนือ แต้ๆเลยกินเข้าไปประมาณ หอมปาก หอมคอ เพื่อไม่ให้หิวเวลาเดินทางขึ้นดอย
หลังจากมือเช้าเราก็เริ่มเดินทางออกนอกกำแพงเมือง เพื่อเดินทางไปยัง ดอยสุเทพ (Doi Suthep)
ระหว่างทางนั้น ได้ผ่าน วัด Srisuphan หรือ เรียกอีกชื่อว่า วัดเงิน (Silver temple) เป็นวัดที่มี อุโบสถที่สร้างด้วยเงินทั้งหลัง เวลามองเข้าไป สีเงินขาวสวยมาก ถ้าใครผ่านแนะนำให้แวะไปถ่ายรูป แต่ทางเข้าค่อนข้างจะมองเห็นยากนิสนึง เล่นเอาวนรถก่อนเข้าไป ถึง 2 รอบเลยทีเดียวถึงจะเจอป้ายทางเข้าอยู่ทางด้านขวาของทางเข้า ถนน Thippanet Rd.
หลังจากแสบตา อิ่มบุญกับวัดเงินแล้ว ก็ได้เวลา ซิ่งรถ ขึ้นดอยกัน ตรงไปกับทางไป ดอยสุเทพ (Doi Suthep) แนะนำว่าเวลาไปไหน ต้องพกแผนที่ตลอด ขาดแผนที่ไป แย่แน่ๆ เมื่อขับรถมาถึงทางเข้าดอยสุเทพแล้ว จะเห็น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ข้างๆ มหาวิทยาลัยเชียงให้ก็จะพบทางเข้าสวนสัตว์ เชียงใหม่ ซึ่งช่วงนี้กำลัง Hot Hit ไปดูแพนด้า หลินปิง แต่ Trip นี้ขอผ่านข้าม สวนสัตว์ไปก่อน ดอย สำคัญกว่า มุ่งหน้าตรงต่อไป ก่อนทางขึ้น ดอยสุเทพต้องไปไหว้ ครูบาศรีวิชัย (Kru Ba Srivichai Monument) ก่อน เพื่อเอาชัย คุ้มครอง ให้ปลอดภัย ในการขึ้นลงเขา ตอนไหว้ก็ไปซื้อดอก ไม้ซักนิด ราคาแถวนั้นไม่แพงอยู่ที่ชุดล่ะ 20 บาทเอง
ไหว้เสร็จ ก็ลังเลอยู่เหมือนกัน ว่าจะขึ้นรถแดงไปดี หรือจะขับรถมอเตอร์ไซด์ไปดี เพราะกลัวทางลำบาก เกินไป แต่สุดท้าย จากที่เห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นมากมาย และเจ้าหน้าทีบอกว่าทางไม่น่ากลัว ก็ตัดสินใจได้ว่า ขับขึ้นไปเลยดีกว่า เพราะระหว่างทางจะได้แวะ หยุดถ่ายรูปถ่ายวิวด้วย ค่อยๆขับไปไม่ไหวก็ลงมา ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ลุยกันเลย!!
เกียร์ 1 เกียร์ 2 เกียร์ 4 เกียร์ 1 เกียร์ 2 เกียร์ 4 กลับไปกลับมา สงสารรถ และ ก้นคนนั่งมาก ออกแนวระบมนิสๆ แต่ก็มันดี กับการเดินทางขึ้นเขา และได้แวะถ่ายรูป จุดชมวิว ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสาหลักกิโล วิวเขา ภาพเมืองเชียงใหม่จากมุมสูง รวมๆแล้วคุ้มจริงๆ ที่ขับขึ้นมา
หลังจากขับมาได้ซักพัก ลมตีหน้าจนหน้าชาไปหมด หัวก็ฟู ตูดก็ระบม และแล้วก็ถึงดอยสุเทพ (Doi Suthep) ก็ จัดไป ถ่ายรูปทางเข้าก่อนเลย จากนั้น ก็ลุยยาววว เดินขึ้นบันได ไปไหว้พระธาตุ ดอยสุเทพ บันไดเห็นเขาว่าให้นับขั้นบันไดด้วย แต่เนื่องจากเดินมาเกินครึ่งแล้ว จะเดินกลับลงไป ก็กระไรอยู่ เลยไมได้นับ เดินขึ้นไปเลย ระหว่างทางมีเด็กใส่ชุดเด็กดอยให้ถ่ายรูปด้วย (ถ่ายเสร็จอย่าลืมให้ตัวค์ น้องเค้านะครับ 10 -20 บาทก็ให้เถอะ ค่าขนมเด็ก)
เมื่อเดินขึ้นมาถึง แน่นอน ต้องปวดขาเมื่อยขา มากมาย ในกรณีคนแก่ เค้ามีกระเช้าขึ้นให้นะครับ แต่เราหนุ่มๆ สาวๆ เดินขึ้นเถอะ ออกกำลังกายจะได้ผอมๆ จัดไปกันเลย
ถึงแล้ว ก็ตะเตรียม ไหว้พระ จุดธูป ดอกไม้ เดินรอบพระธาตุ 3 รอบ อารายให้เรียบร้อย จากนั้น ก็ลงมาเตรียมขับขึ้นไป ต่อ ไปยัง ดอยปุย (Doi pui)
ระหว่างเดินทาง ไป ดอยปุยนั้น จะเจอ พระตำหนักภูพิงค์ ซึ่งมีดอกไม้นาๆ ชนิดสวยมาก แต่ต้องเลยขึ้นไป ดอยปุย ก่อนเพราะ เป้าหมายหลักของ trip นี้คือ ไปเช่าชุด ดอยใส่มาถ่ายรูป เลยมุ่งหน้าต่อไป ยัง ดอยปุย ระหว่างทางตรงนี้ถ้าขับขึ้นมาต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะทางขึ้นลงค่อนข้างชัน ต้องมีสมาธิอยู่ตลอด อย่าเล่นเป็นได้
เมื่อ ถึง ดอยปุย (Doi pui) แล้ว จะเจอหมู่บ้าน คนดอย เจอเด็ก เยอะมากน่ารักมาก ให้ตรงเข้าไปเลย จะมีร้านเช่าชุด เพียงแค่ ชุดล่ะ 30 บาทเท่านั้น จัดไปเลย ใส่ยากๆ เยอะๆ เหมือนชุดโขนหน่อย ประมาณว่าให้เข้าห้องน้าอะไรก่อน เพราะใส่เสร็จถ่ายรูป แล้วจะถอดอารายนี่ลำบากนิดนึง
ข้างใน มีจุดถ่ายรูปมากมาย มีดอกไม้ น้ำตก วิวเยอะแยะ เลยทีเดียว อย่าลืมจ่ายค่าเข้าคนล่ะ 10 บาทช่วยพวกเค้านะครับ แต่ขอบอก ครับ ขอบอก ชุดหนักมาก ร้อนมากกกก เนื่องจากชุดที่เลือกมาเป็นชุดเทศกาล ไม่ได้เป็นชุดปกติ เลย ใส่เยอะเป็นปกติ มีหมวก มี พู่ มีสายห้อยระโยงระยาง เพียบ เหอๆ
พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดเสื้อคืนชุดให้เรียบร้อย แล้วแวะ กินข้าวซอยบนดอยกันหน่อยก่อนกลับ (พอดีหลบฝน) และ หลังจากนั้น ก็ได้เวลาขับรถลงเขาแล้ววววว
ขากลับ ไวมาก รู้สึกได้เลย ไม่เหมือนขาขึ้น แป๊ปเดียวก็ลงมาถึง พระตำหนักภูพิงค์ แทบจะบอกว่า ปิดเครื่อง ประหยัดน้ำมันลงจากเข้า แค่เบรกก็พอแล้ว เพราไมได้ใช้คัยเร่งเลยทีเดียว เฟี้ยววววว เฟี้ยวววววววววววววววววววววว
เนื่องจากใช้เวลาอยู่บน ดอยปุย (Doi pui) มากเกินไป ลงมาเข้า พระตำหนักภูพิงค์ ไม่ทันซะแล้ว ได้แค่ถ่ายรูป บริเวณข้างหน้าเท่านั้น แต่ภายในได้ปิดซะแล้วววว ไม่เป็นไรไว้คราวหน้ามาใหม่ เรารู้ทางแล้ว
จากนั้น ปิดเครื่องยนต์ ทางลงเขาอย่างเดียวแบบไม่ติดเครื่อง ลมเย็นๆ ไม่เปลืองน้ำมันสนุกดีด้วย ไล่เก็บรายละเอียดวิวต่างๆที่ ได้ผ่านมา จนมาถึงล่างเขาโดยสวัดดิภาพ เลยทีเดียว ก่อนออกไปอย่าลืมยกมือไหว้ ครูบาศรีวิชัย (Kru Ba Srivichai Monument) ก่อนออกไปนะครับ ก่อนกลับอย่าลืมแวะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก่อนนะครับเพื่อไปถ่ายรูป นั่งเล่นที่อ่างแก้ว กับบรรยากาศช่วงเย็นๆ ที่พระอาทิตย์กำลังจะตกก่อน อันนี้ก็มาจาในหนังเรื่องเพื่อนสนิทเหมือนกัน บรรยากาศตอนเย็นๆ ชิวๆ สบายๆ มีคนวิ่งออกกำลังกายบ้าง นั่งเล่นกันบ้าง ถ่ายรูปและนั่งเล่นซักพักก็จะมืดละต้องออกเดินทางต่อไปเดินเล่นถนนคนเดิน
จากนั้น ก็ได้เวลา Shopping อีกแล้ว กับ ถนนคนเดิน Ratchadammoen Rd. (Walking Street Sunday) จัดไปครับ เดินทางเข้าเมืองตรงไปถนน เลย ฝรั่งเยอะแยะมากมาย แต่ไปถูกใจ เฉาก้วยโบราณ ถูกใจ อร่อยต้อง ขอ 2 จริงๆ
วันนี้เดินได้ยังไม่ถึงครึ่งทางฝนก็ตกซะละ แต่ก็ตกมาพักหนึ่งหลบเข้าข้างทางรอซักพักฝนหยุดก็เดินต่อ จริงๆ ของที่ขายก็เหมือนกะที่วัวลายเมื่อวานนี้แหละ แต่วันนี้คนค่อนข้างเยอะ เดินลำบาก เดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทางแวะซื้อโปสการ์ดแล้วก็กลับห้องเลย เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวันต้องการพักผ่อนอย่างแรงงงงง
จบกิจกรรม ท่องเที่ยว หนีลมร้อน ไป เจียงใหม่ วันที่ 2
อ่านต่อ ท่องเที่ยวหนีลมร้อนไปเมือง ‘เจ้า’ ……. ที่ เจียงใหม่ วันที่ 1
อ่านต่อ ท่องเที่ยวหนีลมร้อนไปเมือง ‘เจ้า’ ……. ที่ เจียงใหม่ วันที่ 3